วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

จิ้งเหลนจระเข้ หรือ เรด อาย ครอกโกไดล สกินก์

จิ้งเหลนจระเข้ หรือ เรด อาย ครอกโกไดล สกินก์ (Red-eyed Crocodile Skink) ถูกเรียกขานอีกชื่อว่า "กิ้งก่าจระเข้" หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า "เรด อาย สกิงก์" เนื่องจากว่า แม้มันเป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดจิ้งเหลนก็จริง แต่พฤติกรรมและลักษณะของมันกลับเหมือนกิ้งก่ามากกว่าที่จะเป็นจิ้งเหลนแบบที่เราเคยเห็นโดยทั่วไป โดยเฉพาะลำตัวที่มีลักษณะเป็นเดือยหนามปกคลุมโดยทั่วจรดถึงหางคล้ายจระเข้ ซึ่งแตกต่างจากตระกูลจิ้งเหลนซึ่งจะมีผิวหนังเรียบ อาจกล่าวได้ว่าเป็นจิ้งเหลนเพียงชนิดเดียวที่มีลักษณะเช่นนี้

ลักษณะภายนอกของ เรด อาย สกิงก์ คล้ายกิ้งก่า แต่จริงๆ แล้วมันคือ จิ้งเหลน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อย่างที่เราพบเห็นกันมากตัวจิ้งเหลนมันจะออกลื่นๆ ตัวยาวๆ ผิวมันๆ แต่ลักษณะของ เรด อาย สกิงก์ จะต่างออกไป คือมีหนามแหลมทั่วลำตัว หัวทรงสามเหลี่ยม ลำตัวคล้ายทรงสี่เหลี่ยม มีสีน้ำตาลเข้มจนถึงสีดำ แถมยังออกลูกเป็นไข่ ขณะที่จิ้งเหลนทั่วไปออกลูกเป็นตัว

จิ้งเหลนจระเข้ (Red eyed Skink)
จิ้งเหลนจระเข้ หรือ (Red-eyed Crocodile Skink) เป็นสัตว์ที่ต้องการความชื้นสูง การเลี้ยงในตู้จึงต้องพยามเลียนแบบธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ตู้เลี้ยงยิ่งใหญ่ยิ่งดี จัดระบบนิเวศน์ให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือมีใบไม้ ต้นไม้มากๆ มีพื้นดินชื้นๆ มีถาดน้ำให้เขาแช่บ้าง แต่ปกติพวกนี้ไม่ได้ลงน้ำหรือว่ายน้ำขนาดนั้น เพียงให้เขาอยู่ใกล้ๆ แหล่งน้ำ มีที่มุดที่ซ่อน ซึ่งการเลี้ยงในตู้ลักษณะนี้เราสามารถเลี้ยงรวมกับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอย่างกบบางชนิดที่มีขนาดใหญ่กว่าเรด อายฯ ได้ เพราะเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกัน

จิ้งเหลนจระเข้ ตามธรรมชาติหากินเวลากลางคืน มีอาหารหลักคือ จิ้งหรีด ทาก ลูกกบ หนอน ตั๊กแตน ไส้เดือน หนอนไหมหนูแดง และแมลงปีกแข็งขนาดเล็ก แต่เมื่อนำมาเป็นสัตว์ภายในบ้าน คุณสามารถให้อาหารได้ง่ายๆ โดยให้จิ้งหรีดหรือหนอนนก ซึ่งเป็นอาหารสัตว์ที่หาซื้อได้ง่ายในปัจจุบัน นำมาคลุกกับผงวิตามินรวมหรือผงแคลเซียมก่อนโรยใส่ในตู้เพื่อเสริมแร่ธาตุให้กับสัตว์เลี้ยงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ควรเลือกหนอนและจิ้งหรีดที่มีขนาดเล็ก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น